พระบรมสารีริกธาตุ
วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
มอบให้กับกองทัพอากาศพุทธศักราช 2568
คุณลุงทองดี หรรษคุณารมณ์ เป็นนักธุรกิจสร้างอาคารพาณิชย์ทั่วไป ท่านเป็นอุบาสกที่ทำบุญค้ำจุนพระพุทธศาสนาเป็นเนืองนิจย์ จึงเป็นผู้ที่พระมหาเถระในประเทศไทยรู้จักมักคุ้น ด้วยการที่ท่านไปทำบุญวัดต่าง ๆ พุทธศักราช 2520 ได้มีโอกาสไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดีย หลังกลับเมืองไทยท่านได้มีโอกาสเดินทางไปนมัสการเจดีย์ช้างล้อม จังหวัดกำแพงเพชร สภาพเจดีย์มีความทรุดโทรมอย่างมากทั้งที่ศาสนาพุทธในเมืองไทยถือว่ารุ่งเรือง แต่เจดีย์ช้างล้อมอายุประมาณ 700 ปี กลับไม่มีการบูรณะมีสภาพปรักหักพังเกิดความสลดสังเวชใจ จึงตั้งสัจจะอธิษฐานต่อหน้าสถานที่สำคัญนั้น ปวารณาขอเป็นผู้รวบรวมพระบรมสารีริกธาตุที่กระจัดกระจายในพุทธสถานที่มีสภาพเสื่อมโทรมปรักหักพังไปตามกาลเวลาทั่วโลกขอจงเสด็จมาอยู่ในครอบครองของท่านและท่านจะขอเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานในที่สมควรสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
กาลเวลาต่อมาในเวลาเลิกงานของวันหนึ่ง หลังจากนั้นท่านได้กลับมายังบ้านพัก อาบน้ำชำระร่างกาย สวดมนต์ไหว้พระ และจัดภาชนะแก้วใสสะอาด ตั้งสัจจะอธิษฐานต่อทวยเทพเทวาทั้งหลายทั่วไตรโลกธาตุที่สถิตรักษาพระบรมสารีริกธาตุ ขอจงเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในภาชนะที่ท่านจัดเตรียมไว้ เพื่อท่านจะได้มีโอกาสได้เชิญพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในสถานที่เหมาะสมเป็นที่สักการะของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย หลังจากนั้นไม่นานก็ปรากฏพระบรมสารีริกธาตุเสด็จที่บ้านของลุงทองดีและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
คุณลุงทองดี ได้มีโอกาสนำพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จบ้านคุณลุงทองดีสอบถามพระมหาเถระต่างได้รับคำตอบที่ตรงกันว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ประดิษฐานกระจัดกระจายเสด็จมายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อให้คุณลุงเชิญประดิษฐานในสถานที่เหมาะสมตามเจตนา
ปีพุทธศักราช 2525 คุณลุงได้นำพระบรมสารีริกธาตุส่วนหนึ่งสอบถามสมเด็จพระญาณสังวร (สมณศักดิ์ขณะนั้น) ได้รับคำตอบตรงกับพระมหาเถระที่คุณลุงเคยสอบถามมาในอดีต ซึ่งได้รับคำตอบไปในทางแนวเดียวกันคือ “เป็นพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประดิษฐานกระจัดกระจาย เสด็จมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อให้คุณลุงเชิญประดิษฐานในสถานที่เหมาะสมตามเจตนา” คุณลุงจึงได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุแด่สมเด็จพระญาณสังวร (สมณศักดิ์ขณะนั้น) ภายหลังเจ้าประคุณสมเด็จได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 19 จึงทรงก่อตั้ง “มูลนิธิพระบรมธาตุ ในพระสังฆราชูปถัมป์” ในปัจจุบันมูลนิธินี้ยังคงดำเนินกิจการเพื่อการกุศลอย่างต่อเนื่อง
พระบรมสารีริกธาตุที่คุณลุงทองดีได้ถวายแด่สมเด็จพระญาณสังวร (สมณศักดิ์ขณะนั้น) ท่านเก็บรักษาไว้ ณ แท่นบูชากุฎิวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร และมอบแด่วัดองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ที่ถวายฎีกาขอรับมอบพระบรมสารีริกธาตุเชิญบรรจุเจดีย์หรือตั้งบูชาในสถานที่ที่เหมาะสม แม้เจ้าประคุณสมเด็จจะมีพระกรุณามอบพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมสารีริกธาตุบนแท่นบูชาก็เสด็จเพิ่มปริมาณมากขึ้นเพียงพอต่อการมอบแด่วัดและองค์กรต่างๆ
ภายหลังเจ้าประคุณสมเด็จได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 19 เมื่อยังทรงพระพลานามัยแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นประธานในการประทานพระบรมสารีริกธาตุในทุกวาระ แม้พระองค์ทรงพระประชวรเสด็จประทับรักษาพระวรกาย ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาติไทย พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้ พระเทพสารเวที เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร (สมณศักดิ์ในขณะนั้น) ได้ปฏิบัติศาสนกิจประทานพระบรมสารีริกธาตุแทนพระองค์ เมื่อพุทธศักราช 2556 เจ้าพระคุณสมเด็จสิ้นพระชนม์ วัดบวรนิเวศวิหารอ จึงงดกิจกรรมประทานพระบรมสารีริกธาตุ
พุทธศักราช 2565 พระครูวินัยธร สะท้าน ธมฺมธโร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ให้เป็นผู้ดูแลตำหนัก สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ได้สังเกตุเห็นพระบรมสารีริกธาตุ บนแท่นบูชาภายในตำหนักสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เสด็จมีปริมาณเพิ่มขึ้น จึงได้มอบพระบรมสารีริกธาตุให้กับวัดและองค์กรต่างๆที่ประสงค์อัญเชิญประดิษฐานในที่ที่เหมาะสม สานต่อพระดำริสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ที่มีพระประสงค์เชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานในวัดและพุทธสถานให้เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนและเทวดาทั้งหลายสานต่ออายุพระพุทธศาสนาตราบนานเท่านาน
พุทธศักราช 2568 กองทัพอากาศ โดยผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ทำหนังสือกราบนมัสการพระพรหมวชิรรังษี เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ขอรับมอบพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานบนแท่นบูชาพระตำหนัก สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เพื่อเชิญประดิษฐานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์ที่ 3 ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และเชิญประดิษฐานพุทธสถานโรงเรียนนายเรืออากาศ นวมินทร์พระกษัตริยาธิราช พุทธสถานโรงเรียนการบิน พุทธสถานกองบิน เพื่อเป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนพร้อมทั้งเทวดาทั้งหลาย ยังความเป็นสิริมงคลแก่พื้นที่พร้อมทั้งกำลังพลกองทัพอากาศและครอบครัวตราบเท่าจิรัฐิติกาล
กาลนี้ คณะสงฆ์วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีกุศลเจตนามอบพระบรมสารีริกธาตุ ในส่วนที่ประดิษฐานในกุฎิสมเด็จพระพุทธจารย์ (เกี่ยว อุปะเสนโน) อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตประธานผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อเชิญบรรจุในพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์ที่ 3 ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เป็นวันอันอุดมมงคล กองทัพอากาศจึงได้จัดพิธีเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร เชิญประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ห้องขัตติยะนารี กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งนายทหารผู้ใหญ่ข้าราชการและครอบครัวกองทัพอากาศร่วมพิธี

ในเวลา 07.00 น. พิธีรับมอบพระบรมสารีริกธาตุจากวัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับความเมตตาจากพระพรหมวชิรรังษี เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นองค์ประธานสงฆ์
ในเวลา 09.00 น. พิธีรับมอบพระบรมสารีริกธาตุจากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้รับเมตตาจากพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นองค์ประธานสงฆ์ ขบวนเชิญพระบรมสารีริกธาตุโดยรถยนต์กองทัพอากาศ ถึงยังกองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการทหารอากาศ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ นายทหารผู้ใหญ่ กำลังพลกองทัพอากาศและครอบครัว ร่วมเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ห้องขัตติยนารี กองบัญชาการกองทัพอากาศ ได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์วัดดอนเมืองพระอารามหลวง เมตตาเจริญชัยมงคลคาถา

ความเชื่อพร้อมทั้งเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ
สมเด็จองค์ปฐม (สิกขีทศพลที่ 1)

พระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี เป็นพระมหาเถระที่ทรงศีลาจารวัตรเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่มีพุทธศาสนิกชนเคารพนับถือในแนวทางปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐานอย่างแพร่หลาย ท่านได้รับการถ่ายทอดแนวทางการปฏิบัติกรรมฐานจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการปฏิบัติติพระกรรมฐานตามแนววิชามโนยิทธิ
พุทธศักราช 2511 หลวงพ่อได้ปฏิบัติพระกรรมฐานนิมิตรเห็นพระวรกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม (สิกขีทศพลที่ 1) หลังจากที่หลวงพ่อได้เห็นนิมิตนั้น ใด้ตั้งใจมั่นปรารถนาจากถ่ายทอดพุทธลักษณะ พระวรกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม (สิกขีทศพลที่ 1) ให้พุทธศาสนิกชนได้รู้จัก
พุทธศักราช 2535 หลวงพ่อถ่ายทอดพุทธลักษณะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม (สิกขีทศพลที่ 1) ให้ทีมงานช่างหล่อจัดสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม พร้อมทั้งเมตตาบอกบุญระดมทุนทรัพย์ จัดสร้างวิหาร สมเด็จองค์ปฐม บริเวณวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมนั้น หลังจากเริ่มการก่อสร้างพระวิหารและหล่อพระพุทธรูป หลวงพ่อได้ปรารถนาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม (สิกขีทศพลที่ 1) แต่เวลานั้นยังไม่ปรากฏวิธีการเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์มีบันทึกไว้ในตำรับตำราโบราณแต่อย่างใด

วันที่ 13 มีนาคม 2536 เป็นวันเริ่มงานทำบุญประจำปีของวัดท่าซุง และในวันที่ 14 มีนาคม 2536 ได้นิมนต์พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา มาเป็นประธาน และได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมไว้ในพระเกตุมาลาของพระพุทธรูป ท่านพระครูปลัดอนันต์ พุทธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ได้อาราธนาพระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ นำพระเกตุมาลามาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วอัญเชิญไปสวมที่พระเศียรของพระพุทธรูป แต่เนื่องจากการนำขึ้นไปลำบากและสูง พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์จึงมีบัญชาให้ท่านเจ้าอาวาสนำขึ้นไปแทน เมื่อเสร็จพิธี พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวว่า “พระองค์นี้มีลาภมากนะ”
พระสงฆ์อุบาสกอุบาสิกาที่ศรัทธา มีความเพียรในการปฏิบัติ พระกรรมฐานตามแนวมโนมยิทธิ เมื่อปฏิบัติพระกรรมฐานถูกต้องตามหลักปฏิบัติ ก็สามารถนิมิตเห็นพระวรกายของสมเด็จองค์ปฐม(สิกขีทศพลที่ 1) และสัมผัสได้ถึงการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมอีกด้วย
วัดปทุมวนาราม เป็นวัดที่คณะสงฆ์ศึกษาและปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐานตั้งแต่แรกสถาปนาพระอารามถึงปัจจุบัน
พุทธศักราช 2404 ได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์จากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 พุทธศักราช 2550 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรองค์ล้นเกล้ารัชกาล 9 ในการฉลองบูรณะพระอารามครั้งใหญ่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี (พระอิสยศขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการฉลองพระอาราม และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพิ่มเติมในพระเจดีย์
ดังนี้
1.
ในส่วนที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพมหานคร สมเด็จพระพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
2.
ในส่วนที่เป็นมรดกสายสกุลพระยายมราช (ปั้น สุขุม ) ซึ่งทายาทให้ข้อมูลว่า เจ้าพระยายมราช ได้เก็บรักษาไว้และมอบเป็นมรดกสืบต่อมา
พุทธศักราช 2560 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคารเสนาสนะ บริเวณเขตสังฆาวาส วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันน้อมถวายเสนาสนะนี้ให้เป็นที่พักอาศัยของคณะสงฆ์ คณะสงฆ์ร่วมกันปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ปรากฏมีพระบรมสารีริกธาตุพร้อมด้วยพระอรหันตธาตุเสด็จเป็นจำนวนมาก พระพรหมวชิรเวที กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้พระธรรมวชิรญาณวิศิษฏ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร เป็นผู้นำคณะสงฆ์รวบรวมพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จ จัดเก็บไว้ในที่เหมาะสม และก่อตั้งโครงการประทุมมามหาสิกขาลัย วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร รวบรวมพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันธาตุที่เสด็จในวัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร จัดเก็บรวมกันอย่างเหมาะสม ณ ห้องพระธาตุ อาคารเสนาสนะ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร
พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม (สิกขีทศพลที่ 1) ปรากฏมีการเสด็จขึ้น ณ วัดปทุมวนาราม 3 องค์ มีวรรณะและสัณฐานในลักษณะเดียวกันที่เสด็จ ณ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี พระพรหมเวที กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร จึงมีดำริแบ่งมอบพระบรมสารีริกธาตุในส่วนนี้ ประดิษฐานไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ ที่สำคัญ
ดังนี้
1. บรรจุบนพระเจดีย์ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร
2. ประดิษฐาน ณ ห้องพระธาตุ อาคารเสนาสนะ เขตสังฆาวาส วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร
3. มอบให้กองทัพอากาศเพื่อเชิญบรรจุพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์ที่ 3 ยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ (ปัจจุบันประดิษฐานเหมือนกันชั่วคราว
ณ ห้องขัตติยะนารี กองบัญชาการ กองทัพอากาศ กรุงเทพมหานคร)
การเชิญพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม
(สิกขีทศพลที่ 1) จากวัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร เพื่อประดิษฐานเหมือนกันชั่วคราว
ณ ห้องขัตติยะนารี กองบัญชาการ กองทัพอากาศ กรุงเทพมหานคร มีพิธีรับมอบเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ วิหารหลวงพ่อพระเสริม เขตพุทธาวาส วัดปทุมวนารามกรุงเทพมหานคร โดยพระพรหมวชิรเวที กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร เป็นองค์ประธานสงฆ์ในวันอันเป็นมงคลนั้น คณะสงฆ์วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ได้มีเมตตามอบพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ แก่กองทัพอากาศ ดังนี้รายนามต่อไปนี้
1. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม(สิขีทศพลที่๑)
2.
พระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระพุทธโคดมพุทธเจ้า จากสถูปรามคาม
ชมพูทวีป ประเทศเนปาล
3.
พระอรหันตธาตุพระสารีบุตรเถระ
4.
พระอรหันตธาตุพระโมคคัลลานเถระ
5. พระอรหันตธาตุพระอานนท์เถระ
6. พระอรหันตธาตุพระสิวลีเถระ
7. พระอรหันต์ธาตุพระอุปคุตเถระ
8. พระอรหันตธาตุหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
9.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
10.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่สิงห์ ขันตยาขโม
11.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
12. พระอรหันตธาตุหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
13.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
14.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่หลุยส์ จันทสาโร
15.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่ขาว อนาลโย
16. พระอรหันตธาตุหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
17.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
18.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
19. พระอรหันตธาตุหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
20.
พระเกศาธาตุท่านพ่อลี ธัมมธโร
21. พระอรหันตธาตุหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
22.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่สาม อกิญจโน
23. พระอรหันตธาตุหลวงปู่คำดี ปภาโส
24.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
25.
พระอรหันตธาตุหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
26.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่มหาเขียน ฐิตสีโล
27. พระอรหันตธาตุหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
28.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่บัว สิริปุณโณ
29. พระอรหันตธาตุหลวงปู่ชา สุภัทโท
30.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
31. พระอรหันตธาตุพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
32.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
33. พระอรหันตธาตุพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
34.
พระอรหันตธาตุหลวงปู่ผาง ปริปุณฺโณ
35. พระอรหันตธาตุหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต

หลังจากที่คณะสงฆ์พร้อมด้วยคณะกองทัพอากาศและพุทธศาสนิกชนร่วมเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระอรหันตธาตุเวียนประทักษิณเขตพุทธาวาส วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร แล้วเสร็จ จึงได้ร่วมกันเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ กลับกองทัพอากาศ โดยขบวนรถยนต์กองทัพอากาศ มีพิธีเชิญประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ห้องขัตติยะนารี กองบัญชาการกองทัพอากาศ ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 เวลา 17.00 น. ได้รับเมตตาจากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา เมื่อประดิษฐานแล้วเสร็จ กองทัพอากาศได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงยิ่งจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผ้าไตรเชิญน้อมถวายพระสงฆ์ ร่วมพิธีทุกรูป นับเป็นเกียรติยศสูงสุดอีกวาระหนึ่งที่กองทัพอากาศได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ ในกาลมงคลนี้ หลังจากพระสงฆ์อนุโมทนาและกลับยังพระอารามแล้ว ผู้บังคับบัญชาข้าราชการทหารกองประจำการและครอบครัวร่วมกันสักการะสมโภชพระบรมสารีริกธาตุพระอรหันธาตุ ยังความปีติในบุญกุศล

50,000+ บริษัท ที่เรียกใช้ Odoo เพื่อขยายธุรกิจของพวกเขา
เข้าร่วมกับเราและทำให้บริษัทของคุณเป็นสถานที่ที่ดีกว่า